Categories
เงินๆ ทองๆ

ทำกำไรและตัดขาดทุน

ทำกำไร (Take profit) และตัดขาดทุน (Cut loss) 2 คำนี้น่าจะเป็นคำคุ้นหูที่เราคุ้นเคยกันดีในแวดวงการลงทุน แต่จริงๆ แล้ว มันทำง่ายมั้ย เราทำได้จริงหรือเปล่า อันนี้ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งของแต่ละบุคคลที่จะยึดปฏิบัติตามกฎของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน

ออกตัวเลยว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างจะขาดวินัยกับ 2 ข้อนี้มาก เพราะด้วยความอะไรดลใจก็ไม่รู้ อาจจะมองในแง่บวกเกินไปบ้างล่ะ เข้าข้างหุ้นตัวเองเกินไปบ้างล่ะ หรืออาจจะมาจากการตัดสินใจไม่ถูกกลัวขายหมูหรือกลัวขาดทุนเลยไม่ขาย จนนำไปสู่การไม่ action ใดๆ ทั้งไม่ซื้อและไม่ขาย

ซึ่งการไม่ action ใดๆ นี่แหละครับคือปัญหา เพราะนอกจากเราจะไม่ได้ทำกำไรเข้าพอร์ตแล้ว บางครั้งก็ยิ่งทำให้ติดดอยสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่กล้าขายขาดทุนแต่แรก

สิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอในเรื่องของการลงทุนว่ามีตัวแปรความสำเร็จอยู่ 3 ตัวคือ เงินทุน ผลตอบแทนทบต้น และระยะเวลาในการลงทุน หรือที่เรียกว่า โคมไฟวิเศษ 3 ดวง นั้น อยากจะขออธิบายย่อยลึกลงไปในข้อ ระยะเวลาการลงทุน เพิ่มเติมอีกสักนิดว่า การลงทุนระยะยาว ไม่ได้หมายความว่าซื้อวันนี้แล้วรอขายครั้งเดียวเลยในอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า เพราะนั่นก็อาจจะเป็นการลงทุนแบบทางเดียวเกินไปคือทิ้งตูมแล้วรอ

สิ่งที่ควรพิจารณามากกว่าซื้อทิ้งแล้วรอคือ เมื่อมีโอกาสหรือจังหวะของตลาดที่สมควรขายทำกำไร take profit ก็ต้องทำ เพื่อให้เส้นทางการลงทุนมีโอการเก็บเกี่ยวผลผลิตมากขึ้นอีกหน่อย ซึ่งเป็นผลดีกว่าการรอไปเก็บเกี่ยวครั้งเดียวที่ปลายทาง ซึ่งเมื่อไรก็ยังไม่รู้และกว่าจะถึงวันนั้นผลลัพธ์จะยังเป็นเหมือนที่เราวิเคราะห์ไว้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้

ที่เราต้องทำดังนี้ก็เพราะ ข้อดีทางอ้อมอย่างหนึ่งก็คือจะเป็นการเตือนตัวเองว่าให้เข้ามาดูแล อัพเดทข้อมูลสถานการณ์หุ้นตัวนั้นๆ บ้างว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ยังอยู่ในเส้นทางควรลงทุนต่อเหมือนในวันที่เลือกเข้าพอร์ตมาหรือไม่ ถ้าไม่จะได้ขายออกไป เป็นต้น ไม่ใช่คิดว่าลงทุนระยะยาวคือยาวจนไม่ต้องทำอะไรเลยนะครับ

ลองกลับไปดูพอร์ตตัวเองนะครับ ว่ามีตัวไหนอายุเกิน 6 เดือนหรือ 1 ปี โดยที่เราไม่ได้ action ใดๆ เลยหรือเปล่า ถ้ามีก็ควรจะ review เพื่อปรับปรุงทิศทางการลงทุนสำหรับตัวนั้นๆ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งครับ ดีกว่ารอยาว 20 ปีแน่นอน…