Categories
เรื่องทั่วไป

รู้ตัวอยู่เสมอ

เมื่อเวลาแต่ละวันผ่านไป ดวงอาทิตย์ขึ้นลงวนไปซ้ำๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เผลอไปเดี๋ยวเดียวเราก็มาถึงช่วงกลางอายุคนแล้ว มีสิ่งต่างๆ มากมายที่ได้เรียนรู้ ทั้งประสบการณ์ที่ดีน่าจดจำ และประสบการณ์ที่ไม่ดีต้องนำไปเป็นบทเรียนแก้ไข อย่างไรก็ตามในชีวิตคนเราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีทั้งความสุขและความทุกข์ปะปนกันไป แต่จุดสำคัญอยู่ที่ว่าเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องไหนมากกว่ากัน

หากเราให้ความสำคัญกับความสุข เราก็จะรู้สึกว่าชีวิตเรามีความสุขมากกว่าความทุกข์ แต่หากเราให้ความสำคัญกับความทุกข์ ก็จะทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเราช่างมีแต่ความทุกข์มากกว่าความสุข ประเด็นสำคัญคือ เราเลือกจะจดจำเรื่องราวแห่งความสุขหรือความทุกข์มากกว่ากันนั่นเอง

พูดถึง “ความสุข” ชีวิตใช่ว่าจำเป็นที่จะต้องมีแต่ความสุขในทุกๆ วัน เพราะชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ดังนั้น บางวันเราก็อาจจะมีความสุข บางวันเราก็อาจจะรู้สักเฉยๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ หรือบางวันก็อาจจะรู้สึกมีความทุกข์ทั้งวัน ซึ่งนั่นก็คือธรรมดาของชีวิต ขึ้นอยู่กับเรื่องราวเหล่านั้นจะมากน้อยหรือกระทบกับจิตใจเรามากแค่ไหน

การรู้ตัวอยู่เสมอ เป็นหนึ่งกุญแจสำคัญในการดำรงชีวิตยุคปัจจุบัน ด้วยข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ประโคมเข้ามาจากช่องทางต่างๆ มากมาย อาจจะทำให้เราหลงลืมการวางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้า ดังนั้น การหยุดคิด ใคร่ครวญให้รู้ตัวอยู่เสมอจะช่วยให้เราไม่วิตกกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง นอกจากนี้ยังช่วยให้เราวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม เพราะการคาดการณ์และวางแผนรับมือไว้ก่อนในตอนที่ยังไม่เกิดเหตุย่อมมีความพร้อมและคิดรอบด้าน รัดกุมกว่าต้องมาวางแผนเมื่อเหตุได้เกิดขึ้นมาแล้ว

สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะย้ำเตือนตัวเองและคิดทบทวนอยู่ประจำ อย่างน้อยก็ควรจะปีละครั้ง สามารถอ่านได้จาก สรุปสิ้นปี 2565 มาคุยกัน ก่อนวางแผนสำหรับปีใหม่