Categories
เรื่องทั่วไป

เทคโนโลยี GPS กับการสังเกตและความจำ


สัปดาห์ที่แล้วได้มีโอกาสร่วมแรลลี่แบบไม่มีผู้จัดโดยบังเอิญ เหตุก็มีอยู่ว่าวันนั้นพวกเราเดินทางด้วยรถยนต์ทั้งหมด 4 คันไปร่วมงานของเพื่อนร่วมงานในแผนกที่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ขาไปก็ยังไม่มีอะไรมากเพราะเป็นเวลากลางวัน ก็มองป้ายข้างทางบวกกับแผนที่ที่ได้มาก็พอให้ไปถึงบ้านงานได้ แม้ว่าจะต้องจอดถามและโทรถามเกือบ 10 ครั้งก็ตาม

ความตื่นเต้นมันอยู่ขากลับซึ่งเป็นเวลาที่เริ่มมืดและการมองป้ายบอกทางทำได้ไม่สะดวกแล้ว แต่เราก็ยังอุ่นใจได้เพราะหนึ่งในคณะเรามี GPS ที่ซื้อมาติดตั้งภายหลังไว้ที่รถ เราจึงสบายใจไม่ต้องศึกษาเส้นทางขากลับออกมาแล้วเพราะแค่ขับตามเขาอย่างเดียวพอ

เมื่อออกเดินทางกลับได้สักพัก เจ้า GPS ที่ว่าก็พาพวกเราไปในถนนที่ไม่ใช่ขามา เราเริ่มสงสัยแต่ก็คิดว่ามันคงพาไปทางลัดละมั๊ง ก็ขับตามกันไปเรื่อยๆ จนไกลและถนนยากขึ้นๆ เจ้า GPS นี้พาพวกเราลัดเลาะหมู่บ้านแล้วหมู่บ้านเล่า โดยไม่ขึ้นถนนใหญ่เลย ลุยถนนลูกรังฝุ่นตลบ ในที่สุดพวกเราอยู่ในอาการที่เรียกว่า “หลงทาง” ท่ามกลางความมืดและหมู่บ้านที่ไม่รู้จัก ความเครียดเริ่มเกิดขึ้น โชคยังดีที่รถพวกเรามีน้ำมันพอลุยต่อไปไหวจนในที่สุดก็กลับเข้าสู่เส้นทางหลักถนนมิตรภาพได้ตามเดิม สรุปเวลาที่เราใช้แยกจากถนนมิตรภาพไปบ้านงานประมาณ 0.5 ชม. แต่ขากลับเราใช้เวลากลับเข้าสู่ถนนมิตรภาพ 1.5 ชม.

คราวหน้าอย่าไว้ใจเทคโนโลยีจนลืมพื้นฐานการสังเกตด้วยสายตาและความจำ จำเส้นทางด้วยนะครับ