Categories
เรื่องทั่วไป

รู้ตัวอยู่เสมอ

เมื่อเวลาแต่ละวันผ่านไป ดวงอาทิตย์ขึ้นลงวนไปซ้ำๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เผลอไปเดี๋ยวเดียวเราก็มาถึงช่วงกลางอายุคนแล้ว มีสิ่งต่างๆ มากมายที่ได้เรียนรู้ ทั้งประสบการณ์ที่ดีน่าจดจำ และประสบการณ์ที่ไม่ดีต้องนำไปเป็นบทเรียนแก้ไข อย่างไรก็ตามในชีวิตคนเราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีทั้งความสุขและความทุกข์ปะปนกันไป แต่จุดสำคัญอยู่ที่ว่าเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องไหนมากกว่ากัน

หากเราให้ความสำคัญกับความสุข เราก็จะรู้สึกว่าชีวิตเรามีความสุขมากกว่าความทุกข์ แต่หากเราให้ความสำคัญกับความทุกข์ ก็จะทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเราช่างมีแต่ความทุกข์มากกว่าความสุข ประเด็นสำคัญคือ เราเลือกจะจดจำเรื่องราวแห่งความสุขหรือความทุกข์มากกว่ากันนั่นเอง

Categories
มุมหนังสือ

The Long Game

บังเอิญไปเจอหนังสือดี วันนี้จะมาเล่าถึงเป้าหมายหรือโจทย์คำถามในการวางแผนชีวิตแบบเข้มข้น ซึ่งผมไปอ่านเจอมาจากหนังสือ “The Long Game” ของ Dorie Clark ที่มีแปลเป็นภาษาไทยด้วย

บางครั้งชีวิตเราที่ดำเนินอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นการปล่อยไปเรื่อยๆ ตามยถากรรม ไม่ได้มีการวางแผนอย่างรอบคอบรัดกุม กล่าวคือ ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน

เมื่อไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนและกำหนดเวลา ทำให้เราก็เผลอปล่อยปละละเลยเรื่องที่ควรจะทำแต่ไม่ได้ทำ จนเวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ

หนังสือ The Long Game นี้ มีบทโดยบทที่โดนใจให้ฉุกคิดและมีตัวอย่างคำถามที่น่าสนใจให้ชวนหาคำตอบ โดยมีข้อสรุปดังนี้

  • ฉันควรใช้เวลาทำสิ่งใด
  • กิจกรรม 20% ของฉันที่จะให้ผลลัพธ์ 80% คืออะไร
  • ฉันหยุดทำกิจกรรมใดได้บ้าง
  • ฉันจะใช้ข้อจำกัดให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร
  • สมมติฐานของฉันเกี่ยวกับอนาคตคืออะไร และพวกมันส่งผลอย่างไรต่อการกระทำของฉันในปัจจุบัน
  • ฉันจะลงแรงทำบางอย่างแค่หนเดียวให้ส่งผลกระทบสิบเท่าได้อย่างไร
  • ฉันต้องการมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรและที่ไหน และจะเป็นอย่างไรหากฉันยืนหยัดเพื่อจุดหมายดังกล่าว
  • มีวิธีใดบ้างที่ฉันจะผสมผสานงานกับชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกันเพื่อทำให้ฉันสนุกกับทั้งสองเรื่องได้มากยิ่งขึ้น
  • สกุลเงินใดบ้างที่ฉันมี (เช่น คอนเน็กชั่น งานเขียนในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียง รายการพอดแคสต์ การเป็นสมาชิกในคลับบางแห่ง เป็นต้น) ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการหาสกุลเงินอื่นที่แตกต่างออกไปได้

หากท่านใดสนใจ ลองไปหามาอ่านกันนะครับ รับรองว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อยจากแนวคิดดีๆ ของหนังสือเล่มนี้ครับ

Categories
เรื่องทั่วไป

สรุปสิ้นปี 2565 มาคุยกัน ก่อนวางแผนสำหรับปีใหม่

ในช่วงเทศกาลเริ่มต้นปีใหม่อย่างนี้ ก็เป็นปกติที่เรามักจะนึกคิดวางแผนว่าจะทำโน่นนี่นั่นสำหรับปีใหม่ที่มาถึง ซึ่งก่อนจะไปถึงจุดนั้นได้เราก็จะต้องย้อนทบทวนก่อนว่าแล้วปีที่เพิ่งผ่านไปนี้ เรามีผลงานหรือดัชนีชี้วัดในแต่ละเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง โดยสรุปตาม 5 ลำดับความสำคัญของเป้าหมายในชีวิต กันดังนี้

  1. สุขภาพ

ปีนี้ได้ลองทำสรุปค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นรวมทั้งหมดของสมาชิกในครอบครัวสำหรับปี 65 ที่ผ่านมา (เท่าที่ได้บันทึกไว้) ปรากฎว่าค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพนี้เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ด้วยอัตราเร่งที่ค่อนข้างสูง โดยค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 3 ปีล่าสุด เหตุผลหลักมาจากค่าใช้จ่ายรักษา Covid-19 ที่เป็นกันครบทั้งครอบครัว ค่าใช้จ่ายด้านทันตกรรม ค่าฉีดวัคซีนป้องกันต่างๆ ตามที่หมอนัด รวมถึงค่ารักษาอาการป่วยไข้ทั่วไป

ความจริงอีกอย่างหนึ่งด้านสุขภาพคือ เมื่อเราอายุมากขึ้นค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องมากขึ้นตามตัว ดังนั้น ในส่วนนี้จะต้องพิจารณาให้ดีว่าควรทำประกันสุขภาพหรือจะเป็นการเก็บเงินไว้รักษาเอง

สำหรับการออกกำลังกาย ปี 65 นี้ทำได้ที่ 20 ครั้งถ้วน เพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่ทำไว้ที่ 8 ครั้ง ฮ่าๆๆ

  1. ครอบครัว

ปี 65 นี้ก็เป็นอีกปีที่พยายามหาเวลาในการไปเยี่ยมครอบครัวในนานขึ้น ถ้าโอกาสอำนวยก็พยายามจะค้างให้นาน เฉลี่ยก็ได้ประมาณ 4 คืน/ครั้ง ส่วนหนึ่งก็คือการเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ พบปะเพื่อนฝูง และได้พักจากการทำงานและไปชาร์จพลังไปในตัว

  1. การเงิน ความมั่นคง

ด้านความมั่นคงทางด้านการเงินปีนี้พอร์ตการลงทุนมีผลประกอบการติดลบเทียบกับฐานปีก่อนหน้าอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามได้มีการกระจายลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการลงทุนหุ้นต่างประเทศที่ 16% และหุ้นไทย 84% ซึ่งปี 66 นี้ก็จะยังเน้นกระจายการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเช่นเดิม โดยคาดหวังที่การถือครองระยะยาวผ่านกองทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

  1. สังคม

ปีนี้มีการผ่อนคลายสถานการณ์ Covid-19 ทำให้ยังพอนัดพบปะสังสรรค์ กลับมาจัดทริปประจำปีกับเพื่อนๆ ได้อีกครั้งหลังจากเว้นไปช่วง Covid-19 ซึ่งปี 65 นี้เราจัดทริปไปกันที่จังหวัดนครนายก

และสำหรับปี 66 นี้ก็น่าจะยังคงจัดทริปประจำปีเช่นเดิม

  1. ท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวประจำปียังเที่ยวได้อยู่จากสถานการณ์ Covid-19 ที่ไม่มีการล็อคดาวน์แล้ว ช่วงปีหลังๆ มานี้ก็ยังเน้นที่ภาคเหนือ เพราะเป็นช่วงที่สะดวกปลายปีและอากาศเย็นสบาย เหมาะกับการเที่ยวป่าเขา ชมวิว ซึ่งปี 65 นี้เราไปเที่ยวกันที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดน่าน

Categories
เรื่องทั่วไป

9 Soft Skills เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพอย่างรวดเร็ว

วันนี้ไปเจอหัวข้อที่เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองอีกเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสำหรับคนทำงานหรือคนที่ต้องพบปะกับบุคคลอื่นอยู่เป็นประจำ

ขอขอบคุณที่มาจากทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อ @SystemSunday ครับ โดย 9 Soft Skills ที่ว่า มีดังต่อไปนี้

  1. ทำให้คนรู้สึกสำคัญ
    การสร้างความประทับใจหรือทำให้อีกฝ่ายมีความสำคัญ สามารถใช้เทคนิค SHR เข้ามาช่วย โดย

Seen
สบสายตา
ชื่นชมแบบเฉพาะเจาะจง

Heard
ถามคำถามที่ดี
ต้องความสนใจ ไม่ใช่น่าสนใจ

Remembered
ติดตามถามไถ่
จำชื่อให้ได้
พูดถึงบางอย่างที่เคยคุยกัน

2. ฝึกฝนภาษากายของคุณ
คนจะชอบหรือไม่ชอบการสื่อสารจากเรา มาจากพื้นฐานดังนี้

7% มาจากคำพูด
38% มาจากน้ำเสียงและการแสดงสีหน้า
55% มาจากภาษากาย

3. ฝึกฝนการอัปเดท 4 หัวข้อให้เป็นนิสัย
คนที่มีอำนาจมักจะไม่ค่อยมีเวลาว่าง เขาเหล่านั้นอาจจะลืมสิ่งที่เขาสั่งให้คุณทำ ดังนั้น เราจะต้องมีการอัพเดทงานของเราอยู่เสมอ

นี่เป็นตัวอย่างการรายงาน

นี่คือสิ่งที่คุณให้ผมทำ
นี่คือสิ่งที่ฉันทำ
นี่คือความเสี่ยงหรืออุปสรรค (ถ้ามี)
ถ้าให้เวลามากกว่านี้ ฉันจะทำสิ่งนี้ด้วย

4. ศึกษาการพูดของคุณ
5. ถามคำถามสร้างสายสัมพันธ์
6. ส่งไฮไลท์วันศุกร์
7. ไม่เคยบ่น
8. จำชื่อทั้งหมด
9. เต็มใจที่จะเรียนรู้

Categories
เรื่องทั่วไป

21 ทักษะที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับคุณตลอดไป

บทความนี้ผมได้อ่านเจอมาจากทวิตเตอร์ @UpSkillYourLife ที่ได้สรุปทักษะในด้านต่างๆ ที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนหรือประโยชน์ให้กับเราได้ตลอดไป หากว่าเราเข้าใจหรือมีความสามารถในเรื่องใดๆ ดังด้านล่างนี้

แต่ละคนมีทักษะและความสามารถไม่เหมือนกัน สิ่งที่คนอื่นถนัดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้หรือถนัด ในขณะเดียวกันสิ่งที่เราถนัดก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นทำตามได้ง่ายนัก

หลังจากอ่านทั้งหมดนี้แล้ว ให้ลองพิจารณาว่าเรามีความสามารถในด้านไหนบ้าง บางคนอาจจะ 1 ข้อหรือมากกว่านั้นไม่ว่ากัน และสิ่งสำคัญคือ เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากทักษะที่เรามีอย่างไรให้ได้คุณค่าตอบแทนกลับมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการทำงานที่มีความสุขเหมาะสมกับผลตอบแทนที่ได้รับ

1.ความสามารถในการขายและต่อรองได้

  1. ความสามารถในการถ่ายทอดสิ่งที่คุณคิดและรู้สึก
  2. ความสามารถในการแบ่งกระบวนการออกเป็นขั้นตอนที่เล็กลง
  3. ความสามารถในการเงียบ ฟังและเรียนรู้จากผู้อื่น
  4. ความสามารถในการนำมาใช้ ด้นสด และเอาชนะอุปสรรค
  5. ความสามารถในการอ่าน ทำความเข้าใจ และจดจำ
  6. ความสามารถในการปล่อยวาง
  7. ความสามารถในการบริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  8. ความสามารถในการคิดในเชิงบวกและมองโลกในแง่ดี
  9. ความสามารถในการเขียนคำชักชวนและโน้มน้าวผู้อื่น
  10. ความสามารถในการพูดต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก
  11. ความสามารถในการพยายามต่อไปแม้จะล้มเหลว
  12. ความสามารถในการลงทุนด้วยเงินของตัวเอง
  13. ความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์
  14. ความสามารถในการวิเคราะห์ตนเอง
  15. ความสามารถในการเรียนรู้วิธีการเรียนรู้
  16. ความสามารถในการเข้าใจสิ่งที่คนอื่นรู้สึก
  17. ความสามารถในการคงความสม่ำเสมอ
  18. ความสามารถในการควบคุมความคิดของคุณ
  19. ความสามารถในการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ไม่ขึ้นอยู่กับอารมณ์
  20. ความสามารถในการขอความช่วยเหลือ

ลองมาแชร์กันดูนะครับ คุณมีทักษะกี่ข้อและข้อไหนบ้าง

Categories
มุมหนังสือ

ปัญหาหนังสือล้นตู้เก็บหนังสือ

ผมเป็นคนที่ชอบซื้อหนังสืออยู่พอสมควร เวลาได้ไปห้างหรือไปที่ไหนๆ ที่มีร้านหนังสือก็มักจะแวะเข้าไปดูว่ามีหนังสืออะไรออกใหม่บ้าง เล่มไหนน่าสนใจบ้าง เพราะจริงๆ แล้วเราการที่เราแวะเข้าไปดูหนังสือออกใหม่นี้มีประโยชน์คือ บางครั้งได้หนังสือดีๆ ได้ไอเดียดีๆ แบบที่เราไม่ได้ตั้งใจไว้ก่อนล่วงหน้า ซึ่งก็จะเป็นการเปิดสมองรับสิ่งใหม่ๆ แบบไม่ซ้ำกับที่เคยสนใจมาก่อน

หนังสือที่ผมชอบซื้อก็จะเป็นไปตามยุคสมัยนิยมส่วนตัวของผมเอง เช่น สมัยปี 2000 ต้นๆ ช่วงกำลังเรียน ชอบเขียนเว็บไซต์ ทำเว็บขายของออนไลน์ ก็จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ การทำภาพประกอบเว็บไซต์ การจัดการด้าน SEO ต่างๆ ภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับการเขียนเว็บไซต์ ซึ่งก็จะมีหนังสือมากมายลักษณะนี้วางขายในสมัยนั้น

ต่อมาช่วงปี 2010 หลังทำงานประจำได้สักพัก เริ่มหันมาสนใจการลงทุน หนังสือที่มักซื้อในช่วงนี้ก็จะออกแนวเกี่ยวกับการลงทุน หุ้น คริปโตฯ การวางแผนการเงิน รวมถึงอายุการทำงานก็มาถึงวัยกลางๆ ของการทำงานแล้วก็จะมีหนังสือเกี่ยวกับการทำงาน การพัฒนาตนเอง หรือด้านจิตวิทยา เพิ่มเข้ามา

เมื่อเวลาผ่านไป ปัญหาของการชอบซื้อหนังสือก็มีนะครับ ไม่ใช่ว่าอ่านหนังสือแล้วจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะปัญหาที่ผมเจอคือ ตู้เก็บหนังสือไม่เพียงพอที่จะเก็บได้ทั้งหมดที่ซื้อมา ตอนนี้หนังสือของผมล้นตู้หนังสือออกมาวางกองซื้อกันนอกตู้ ตามที่ต่างๆ ในบ้าน วางนานๆ ก็เริ่มจะไม่เป็นระเบียบ ดูแลยาก เก่าเร็ว และเรียกว่าหนังสือเริ่มรกบ้านแล้วทีนี้

ทางเลือกในแก้ปัญหานี้คือ จะซื้อตู้เก็บหนังสือเพิ่มให้มากขึ้นเพื่อให้เก็บหนังสือได้ทั้งหมดหรือจะลดจำนวนหนังสือลงดีเป็นสิ่งที่ผมชั่งใจอยู่ อย่างไรก็ตามหนังสือที่เราตั้งใจซื้อมาเราก็รู้สึกเสียดายที่จะต้องทิ้งไป เพราะรู้สึกเหมือนว่ามีหนังสืออยู่ด้วยแล้วอุ่นใจ แม้ว่างบางเล่มไม่เคยได้หยิบมาเปิดเลยเป็นเวลาหลายปี

แต่หลังจากทบทวนอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดผมเลือกทางออกที่จะจัดการกับปัญหานี้คือ เลือกที่จะลดจำนวนหนังสือลง ให้เหลือเฉพาะที่สามารถเก็บในตู้หนังสือได้ ก็โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการอ่านหนังสือนี่ล่ะ หนังสือที่ว่าก็คือ “อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป” ของคุณ Fumio Sasaki ที่เน้นถึงการมีแต่เพียงพอดี ไม่มากจนเกินความจำเป็นที่ต้องการ เพราะอะไรที่มากเกินจะสร้างปัญหาหลายอย่าง แต่สิ่งที่จะได้จากการ minimal ของปัญหานี้ก็คือ

  1. ประหยัดพื้นที่การวางตู้หนังสือ หากซื้อตู้หนังสือเพิ่มนั่นก็หมายความว่าจะต้องเสียพื้นที่ในบ้านเพื่อวางตู้หนังสือใหม่นี้อีก ตู้เดิมก็ยังอยู่ ตู้ใหม่ก็จะเข้ามา จะเปลืองพลังงานการดูแล ปัดเช็ดกวาดถู ซึ่งเป็นการเพิ่มงานในการทำงานบ้านระยะยาวเข้ามาอีก
  2. ถือโอกาสคัดเลือกไว้เฉพาะหนังสือที่จำเป็นจริงๆ ตามช่วงเวลาที่จำเป็นจริงๆ ในที่นี้ความหมายคือ ผมได้คัดแยกหนังสือที่สำคัญ จำเป็น ใช้บ่อย ออกจากหนังสือที่ตกรุ่น หนังสือที่อ้างอิงเนื้อหา ณ ปีก่อนๆ นานมาแล้ว หรือหนังสือที่เราไม่ได้ใช้แล้วออกจากกัน เพื่อให้หนังสือในตู้มีความทันสมัยพร้อมใช้ที่จำเป็นเท่านั้น
  3. หนังสือเก่าที่แยกออก ผมแยกออกเป็นสองกลุ่ม คือ เก็บแยกประเภทไว้สำหรับบริจาคสำหรับแต่ละสถานที่และเก็บลงกล่องสำรองไว้ใช้เองก่อนกรณีต้องการใช้อีก นี่ก็จะเป็นทั้งการให้ประโยชน์ทั้งแก่ผู้อื่นที่อาจจะต้องการหนังสือแบบเดียวกับที่เรามีอยู่ และให้ประโยชน์กับตัวเองในการประหยัดเวลาและพลังงานในการดูแลหนังสือที่เหลืออยู่
  4. ความรู้จากหนังสือบางส่วน ผมพยายามสรุปรวบรวมและเขียนลงเว็บไซต์ ซึ่งแม้ว่าหนังสือเล่มนั้นอาจจะไม่อยู่แล้ว แต่แก่นเนื้อหาความสำคัญเราได้ทำความเข้าใจและเขียนสรุปไว้ในเว็บไซต์แล้ว ประโยชน์คือ ค้นหาได้ง่าย ไม่สูญหายและไม่ต้องใช้พลังงานในการดูแลรักษา ทั้งยังสามารถส่งต่อความรู้ให้กับผู้ที่สนใจศึกษาได้อีกด้วย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างและประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมยกมาเป็นตัวอย่างในการจัดการด้านหนังสือล้นตู้ หลักการ minimal นี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเรื่องต่างๆ ได้อีกมากมาย ทั้งที่บ้านและที่ทำงานครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดูครับ